Search for:
  • Home/
  • ข่าวกีฬา/
  • สู่ก้าวอันยิ่งใหญ่กับการเตรียมคว้า 3 แชมป์ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้
เกาะติดกับชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หลังเอาชนะ เรอัล มาดริด 4-0 พร้อมฝ่าด่านเข้าถึงการแข่งขันยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบชิงชนะเลิศ

สู่ก้าวอันยิ่งใหญ่กับการเตรียมคว้า 3 แชมป์ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้

ข่าวฟุตบอลยุโรป สู่ก้าวอันยิ่งใหญ่กับการคว้า 3 แชมป์ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้

เกาะติดกับชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หลังจากที่กำราบ เรอัล มาดริด ลงไปได้อย่างราบคาบถึง 4-0 พร้อมฝ่าด่านเข้าถึงการแข่งขันยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบชิงชนะเลิศเป็นหนที่สองได้เป็นผลสำเร็จ ซึ่งเมื่อมองดูรูปการณ์การชิงแชมป์ในทุกรายการแล้ว พวกเขามีสิทธิ์สร้างประวัติศาสตร์หน้าสำคัญให้กับสโมสรในการคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ครั้งแรกของตัวเอง รวมไปถึงการคว้ามทริปเปิลแชมป์ให้กับสโมสรอีกด้วย จะมีช่วงเวลาไหนที่จะยิ่งใหญ่ไปกว่านี้ แต่ถึงกระนั้น ก็ยังมีเกมที่แอบกังวลใจอยู่บ้างที่อาจพลาดจนทำให้เสียทริปเปิลแชมป์ไป

ความสำเร็จของ แมนฯซิตี้ สู่เส้นทางแห่งความยิ่งใหญ่ที่เฝ้ารอ

ตามติด ข่าวฟุตบอล กับอีกหนึ่งย่างก้าวที่สำคัญก่อนที่จะก้าวไปถึงความยิ่งใหญ่ที่เชื่อเหลือเกินว่า แมนซิตี้ เอง ก็อาจคิดไม่ถึงคิดว่าตัวเองจะมีโอกาสที่ยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ แต่ถึงกระนั้น ก็ยังแอบเชื่ออยู่ว่าพวกเขาเองก็คงแอบฝันเอาไว้อยู่บ้าง โดยเฉพาะกับการคว้าแชมป์ในการแข่งขันในราย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่ในเวลานี้ความฝันและเป้าหมายของพวกเขา มันยิ่งใหญ่กว่าที่คิดฝันเอาไว้อย่างแน่นอน

เกาะติดกับชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หลังเอาชนะ เรอัล มาดริด 4-0 พร้อมฝ่าด่านเข้าถึงการแข่งขันยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบชิงชนะเลิศ

แต่ถึงกระนั้น นี่คือย่างก้าวและจุดเปลี่ยนอันสำคัญยิ่งที่ทำให้หลายคนเชื่อว่าซิตี้ จะสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับสโมสรด้วยการก้าวไปคว้าทริปเปิลแชมป์ให้กับตัวเอง เป็นการคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกแบบสะใจพระเดชพระคุณ อีกทั้งยังสามารถสร้างประวัติศาสตร์เทียบเคียงกับอริร่วมเมืองอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้อีกด้วย แบบนี้ใครจะไม่ทุ่มเทกันสุดแรงตีนเพื่อการคว้าเกียรติยศอันนี้ให้ได้เล่า

สำหรับจุดเริ่มต้นของโอกาสคว้าทริปเปิลแชมป์ที่ดูเหมือนว่าจะง่ายที่สุดได้แก่การเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกอังกฤษ ที่ตอนนี้ แมนฯซิตี้ ขอเพียงอีกแค่ 2 คะแนนเท่านั้นก็จะได้เป็นแชมป์ในฤดูกาลนี้หลังจากที่เจ้าของวตำแหน่งอันดับ 1 เดิมอย่างอาร์เซน่อลพลาดท่าถึงแพ้ให้กับ ไบร์ทตัน แทบเป็นการปิดฉากการช่วงชิงตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ลีกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับการชิงชัยในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบชิงชนะเลิศ

และถ้วยรางวัลใบที่สองที่ใคร ๆ ก็มองกว่า แมนฯซิตี้ ไม่น่าพลาด นั่นคือ การชิงชัยในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบชิงชนะเลิศนั่นเอง โดยคู่ต่อกรของพวกเขาคือ อินเตอร์ มิลาน ที่ฟอร์มในปีนี้ไม่ได้ร้อนแรงเปรี้ยงปร้างมากเท่าไหร่นัก อีกทั้งการลงสนามในเกมแชมเปี้ยนส์ลีกยังไม่เคยเจองานหนักซักเท่าไหร่ ไม่ว่าจะเป็นการฝ่าด่าน รอบ 16 ทีมพวกเขาเจอกับ ปอร์โต้ 8 ทีมเล่นกับ เบนฟิก้า ก่อนจะมาเจองานหนักกับ เอซี มิลาน ส่วนเรือใบสีฟ้าเล่นกับ ไลป์ซิกรอบ 16 ทีม แถมยังต้องประจัญบานกับ บาเยิร์น มิวนิค รอบ 8 ทีม และมาเจอกับ เรอัล มาดริด รอบ 4 ทีม แต่ละทีมระดับโหดโคตรหินทั้งนั้น แต่แมนฯซิตี้ กลับผ่านมันมาได้แบบสบาย ๆ ทำให้หลายฝ่ายเชื่อว่า ยังไง อินเตอร์ ก็ไม่น่ารอดคมฝีเท้าของเหล่าเรือใบสีฟ้าอย่างแน่นอน

แต่เกมที่ใครหลายคนเชื่อว่าจะเป็นเกมที่ทำให้ เรือใบสีฟ้า พลาดโอกาสในการเป็นทริปเปิลแชมป์มากที่สุด คือ เกมที่พวกเขาต้องต่อกรกับอริร่วมเมือง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศฟุตบอล เอฟเอคัพ ที่เชื่อเหลือเกินว่า พลพรรคปีศาจแดงคงไม่อยากให้เรือใบสีห้ามาทำสถิติเทียบตัวเองได้ แถมการแข่งขันบอลถ้วยเป็นการเตะแบบนัดเดียวจอด เชื่อเหลือเกินว่า เด็กผีพร้อมลุยอย่างเต็มตี่เพื่อทำลายความฝันของ แมนฯซิตี้ เป็นแน่

ซิตี้จะทำได้หรือไม่ และ แมนฯยู จะเป็นกระดูกขวางคอชิ้นใหญ่หรือไม่เปล่า ทุกอย่างเริ่มบรรเลงกันตั้งแต่พรีเมียร์ลีกสุดสัปดาห์นี้ หาก เรือใบสีฟ้า ชนะ เชลซี ได้ พวกเขาจะกลายเป็นแชมป์ในทันที ก่อนการเจอศึกใหญ่กับ แมนฯยูในรอบชิงเอฟเอคัพ ในวันที่ 3 มิถุนายน 2566 และจะจบการแข่งขันในฤดูกาลนี้อย่างสวยงามได้หรือ 11 มิถุนายน 2566 วัดใจกับ อินเตอร์ มิลาน ซึ่งเชื่อเหลือเกินแหละว่า แม้ไม่ใช่แฟนเรือใบแต่ก็แอบลุ้นอยู่ในใจให้พวกเขาได้แชมป์แบบจัดเต็มนะ เรือใบสีฟ้า

เกาะติดกับชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หลังเอาชนะ เรอัล มาดริด 4-0 พร้อมฝ่าด่านเข้าถึงการแข่งขันยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบชิงชนะเลิศ